ทัวร์เทือกเขาอัลไต
ทัวร์
ยุโรป
ระยะเวลา
12 วัน 9 คืน
สายการบิน
วันเดินทาง
5-16 มิถุนายน / 10-21 กรกฎาคม / 7-18 สิงหาคม / 11-22 กันยายน 2563
Hilight

โนโวซิบิร์สค์-บารนัล-พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอัลไต-พิพิธภัณฑ์เภสัชศาสตร์-กอร์โน อัลไต-หมู่บ้านเชมัล-พิพิธภัณฑ์อโนคิน-หมู่บ้านช่างศิลป์อัซกัต-อุทยานแห่งชาติอุช เชลเม็ก-หุบเขาคาราโค-หุบเขาคึซึลชิน-ทะเลสาบเกเซอร์-ชิบิช-แม่น้ำคาตุน-ถนนคาตุน-พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เพซึริกส์-กลุ่มหินหัวเห็ด-ทะเลสาบเตเลสโกย


แผนการท่องเที่ยว
  • Day 1
    1) วันแรก กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) - บารนัล (-/-/-)

    • 7.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 สายการบิน Aeroflot Russian Airlines เคาเตอร์ P8-P14 ประตู 7 เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินด้านสัมภาระและเอกสารให้กับท่าน
      10.00 น. เหินฟ้าสู่ เมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย โดยสายการบิน Aeroflot Russian Airlines เที่ยวบินที่ SU271 (1000-1600) กรุงเทพฯ-มอสโก
      16.00 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชเรเมเตียโว เมืองมอสโก เพื่อรอเปลี่ยนเครื่องเข้าสู่เมืองบารนัล 
      21.40 น. เหินฟ้าสู่ เมืองบารนัล ประเทศรัสเซีย โดยสายการบิน Aeroflot Russian Airlines เที่ยวบินที่ SU1430 (2140-0555) มอสโก–บารนัล  
  • Day 2
    2) วันที่สอง บารนัล – พิพิธภัณฑ์ตำนานท้องถิ่นแห่งรัฐอัลไต - พิพิธภัณฑ์เภสัชศาสตร์แห่งขุนเขา (-/L/D)

    • 05.55 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติบารนัล หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางตรงไปเช็กอินยังโรงแรมที่พัก Hotel Central 3* หรือเทียบเท่า พักผ่อนตามอัธยาศัย 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ตำนานท้องถิ่นแห่งสาธารณรัฐอัลไต (Altai State Museum of Local Lore) มีการจัดแสดงหลักฐานทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นของชาวอัลไต ทั้งยังพบสินแร่ธรรมชาติ เหรียญโบราณ ฯลฯ มากกว่า 150,000 ชิ้น ในพิพิธภัณฑ์มีการจัดการอย่างมีระบบ แบ่งโซนข้าวของเครื่องใช้ อาวุธที่ใช้สำหรับล่าสัตว์ ชุดประจำชาติ ชุดเกราะนักรบโบราณ ป้ายคณะปฏิวัติ โซนสัตว์ป่าและสัตว์ท้องถิ่นหายาก ที่พบเฉพาะในภูมิประเทศแถบเทือกเขาอัลไต หรือแม้แต่ของที่ระลึกในยุคโซเวียต เนื่องจากภูมิภาคอัลไตนี้อยู่ใกล้กับเขตพรมแดนประเทศจีนและมองโกเลีย จึงมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ผสมผสานคล้ายคลึงกับประเทศเพื่อนบ้านบ้าง 
        จากนั้นชม พิพิธภัณฑ์เภสัชศาสตร์แห่งขุนเขา (Mountain Pharmacy Museum) แหล่งเรียนรู้ข้อมูลการปรุงยาที่คัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้ในหุบเขาอัลไต ในตัวยามักจะมีน้ำผึ้งหรือไขผึ้งเป็นส่วนประกอบหลัก ใช้สมุนไพรท้องถิ่น เช่น ซีบัคธอร์น (Sea Buckthorn) ผลไม้ที่ค่อนข้างทนต่อสภาพอากาศทั้งร้อนจัดและหนาวจัด ซีบัคธอร์น อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินอีทำให้เซลล์ผิวได้รับการฟื้นฟูทำให้ผิวแลดูเด็กลง มีเบต้าแคโรทีนช่วยลดการแก่ก่อนวัย มีไลโคปีนทำให้หลอดเลือดแข็งแรง และช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนดีขึ้น เรียกได้ว่าเป็นผลไม้มากประโยชน์ที่ควรค่าแก่การปลูกทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเขากวางเรนเดียร์ ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมตัวยาอายุวัฒนะแบบโบราณ เชื่อกันว่าเขากวางเรนเดียร์อ่อน มีสารธรรมชาติหลายชนิดที่มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง ช่วยในการปรับสมดุลร่างกาย ทั้งยังมีภูมิต้านทานต่อโรคได้ดีที่สุดในโลกชนิดหนึ่งอีกด้วย การนำเขากวางเรนเดียร์มาเป็นส่วนประกอบของสูตรยามีมานานแล้ว ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อ 168 ปีก่อนคริสตกาล และเมื่อกาลเวลาผ่านไป ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของเขากวางนั้นก็ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกจวบจนถึงในปัจจุบัน 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Central 3*, Barnaul หรือเทียบเท่า
  • Day 3
    3) วันที่สาม บารนัล - กอร์โน อัลไตสก์ - พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอโนคิน - ธารน้ำแร่อาคซานโซว - เชมัล (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม 
      จากนั้นเดินทางต่อไปยังเขตเชมัล ระหว่างทางแวะชม พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอโนคิน (A.V.Anokhin National Museum named after A.V. Anokhin) พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอโนคิน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่กอร์โน อัลไตสก์ (Gorno-Altaysk) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐอัลไต ได้เก็บรวบรวมหลักฐานทางโบราณคดี และโบราณวัตถุหลากหลายประเภท ไฮไลท์ที่พลาดชมไม่ได้ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ มัมมี่หญิงสาวน้ำแข็งแห่งไซบีเรีย หรือ มัมมี่เจ้าหญิงแห่งอัลไต (Siberian Ice Maiden - Altai Princess) ที่ขุดค้นพบจากที่ราบสูงอูกก (Ukok Plateau) ซึ่งคือพื้นที่ห่างไกลที่ตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนของประเทศจีน ประเทศคาซัคสถาน และประเทศมองโกเลีย อยู่ใจกลางทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของไซบีเรีย เพราะขุดค้นมัมมี่สภาพร่างที่สมบูรณ์ของหญิงสาวได้ที่นี่ จึงมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า เจ้าหญิงแห่งอูกก (Ukok Princess) มัมมี่ของหญิงสาวที่ขุดค้นพบมีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์กาล คาดว่าหญิงสาวมีเชื้อสายไซโธ-ไซบีเรียน (Scytho-Siberian) เป็นชนเผ่าเร่ร่อนอาศัยอยู่บนทุ่งหญ้ายูเรเชียนสเต็ปป์ ร่างมัมมี่ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1993 โดยหลังจากตรวจสอบแล้วพบว่า หญิงสาวมีรากฐานทางประวัติศาสตร์อยู่ในวัฒนธรรมปาซึริกสก์ (Pazyryk Culture) หรือยุควัฒนธรรมทางโบราณคดีในยุคเหล็ก ของสาธารณรัฐอัลไตในปัจจุบันนั่นเอง 
      นอกจากขุดค้นพบมัมมี่ร่างสมบูรณ์บนที่ราบสูงอูกกแล้ว ที่ราบสูงอูกกยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นพื้นที่มรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ ที่ราบสูงอูกกมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูง ปราศจากสิ่งรบกวน มีสายพันธุ์สัตว์ซึ่งใกล้สูญพันธุ์ เช่น เสือดาวหิมะ แกะภูเขา นกอินทรี และนกกระสาดำ เป็นต้น
      จากนั้นเดินทางเลาะเลียบไปบนเส้นทาง ถนนชุย (Chuya Road) อันเลื่องชื่อ หรือเป็นที่รู้จักในเส้นทางรัสเซีย M52 (Chuya Highway หรือ Chuysky Trakt) เส้นทางหลวงสายหลักซึ่งเชื่อมระหว่างแคว้นโนโวซีบีสค์และเขตการปกครองตนเองอัลไต ในสาธารณรัฐอัลไต มีความยาวรวม 953 กิโลเมตร หน้าถนนกว้าง 7 เมตร ดื่มด่ำความงามของธรรมชาติสองฝากฝั่งถนน ทั้งนี้ท่านยังสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำคาตุนในมุมโค้งได้เกือบตลอดสาย เพราะบางส่วนของถนนชุย คือถนนที่ตีขนาบข้างไปตามเส้นทางคดเคี้ยวของแม่น้ำคาตุนนั่นเอง
      กลางวัน    รับประทานอาหารกลางวันระหว่างทางที่ร้านอาหารท้องถิ่น
      บ่าย มุ่งหน้าต่อไปยังเขตเชมัล (Chemal) ระหว่างทางแวะชม ธารน้ำแร่อาคซาน-โซว (Arzhan-Suu Spring) คือธารน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารประเภทวิตามินและแร่ธาตุจำนวนมาก อาทิ ธาตุเหล็ก ธาตุทองแดง ธาตุสังกะสี และแร่ธาตุอื่นๆ ที่มีประโยชน์อยู่มากมาย น้ำแร่ที่อาคซาน-โซวนี้ถือเป็นเครื่องดื่มที่ให้คุณประโยชน์สูง ซึมลึกระดับเซลล์ เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ทั้งยังช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญเมตาบอลิซึมในร่างกายได้อีกด้วย ชาวอัลไตเชื่อว่าธารน้ำแร่อาคซาน-โซว เป็นธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ หากได้ดื่มกินหรืออาบน้ำที่ผสมน้ำจากธารน้ำแร่แล้วจะโชคดีเป็นสิริมงคลให้ชีวิต นอกจากนี้ บริเวณธารน้ำแร่ ท่านจะได้พบเห็นผ้าสีสันผูกตามต้นไม้ซึ่งเป็นการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของลัทธิชามาน
      ค่ำ เดินทางถึงเขตเชมัล รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Salyut Tour Base, Chemal หรือเทียบเท่า
  • Day 4
    4) วันที่สี่ เชมัล (วันนี้เดินเท้า 3 ก.ม.) (B/L/D)
    • เช้า          รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
      จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยัง สะพานอาร็อคโตย (Oroktoy Bridge) ที่พาดผ่านแม่น้ำคาตุน หนึ่งในสถานศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตย์ ณ ที่นี้ และยังมีความสำคัญทางจิตวิญญาณต่อชาวอัลไตอย่างมาก จากนั้นชม แก่งเตลเด็กเปน (Teldekpen Rapid หรือ Edigan Rapid) ที่ไหลเชี่ยวกราก ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาใน
      เขตเชมัล ใกล้กับแม่น้ำคาตุน มีความกว้าง 20 เมตรและความลึก 80 เมตร ไหลเชี่ยวกรากผ่านชั้นหินบะซอลต์ เกิดเป็นแก่งน้ำที่มีทัศนียภาพงดงาม
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางต่อไปยัง หุบเขาเชชคึซ (Che-Chkish Gorge - Valley of the Mountain Spirits) ดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติโอบล้อมและชมวิวแม่น้ำคาตุนจากมุมสูง ที่นี่ท่านจะได้พบกับถ้ำของลัทธิชามาน หรือกลุ่มชนที่นับถือภูตผี ด้วยความที่ชาวอัลไตดำเนินชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ จึงเคารพในธรรมชาติและเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักษ์รักษาตนเองจะสถิตย์ในธรรมชาติ ทั้งแม่น้ำ และขุนเขา ที่แห่งนี้จึงเชื่อว่าเป็นหุบเขาแห่งจิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ อันเต็มไปด้วยความลี้ลับ ปัจจุบันชาวบ้านใช้ประกอบพิธีกรรมความเชื่อทางจิตวิญญาณในท้องถิ่น
      จากนั้นเยี่ยมชม บ้านไม้โบราณแห่งชาติของชาวอัลไต (Traditional National House named “Ail”) อัยยึล (Ail) คือบ้านไม้โบราณแบบเรียบง่าย ที่สร้างจากภูมิปัญญาท้องถิ่นคล้ายกระโจมของชนเผ่าในประเทศมองโกเลีย พื้นบ้านเป็นดินอัดแน่นไม่ปูพื้น ตัวบ้านประกอบจากวัสดุไม้เป็นหลัก ขึ้นฐานทรงกลมนิยมสร้างตั้งแต่ห้าเหลี่ยมขึ้นไป ตอกลิ่มไม้แทนตะปู มุงหลังคาสูงทรงกรวยคว่ำคล้ายโดม และเว้นช่องสำหรับระบายอากาศหรือทำปล่องไฟด้านบนสุดหรือด้านข้างของหลังคาบ้าน ไม้ที่ใช้สร้างตัวบ้านจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ชาวบ้านจะหามาได้ 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Salyut Tour Base, Chemal หรือเทียบเท่า
  • Day 5
    5) วันที่ห้า หมู่บ้านช่างศิลป์อัซกัต - อุทยานแห่งชาติอูช เชลเม็ก - หุบเขาคาราโค (วันนี้เดินเท้า 1 ก.ม.) (B/L/D)
    •   เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม 
      จากนั้นนำท่านออกไปเดินทางยัง หมู่บ้านช่างศิลป์อัซกัต (Askat Village of Artisans) หมู่บ้านช่างศิลป์อัซกัตคือหมู่บ้านศิลปะหลากแขนงในหุบเขาอัลไต ชาวบ้านที่นี่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย มีศิลปะ วัฒนธรรมและความเชื่อที่สืบทอดมายาวนาน หมู่บ้านช่างศิลป์นี้คือแหล่งรวมงานศิลปะชั้นดี อาทิ งานปั้นเซรามิก งานไม้แกะสลัก งานปักผ้าลายท้องถิ่นหายาก งานจิตรกรรมภาพวาด เป็นต้น ชม กิจกรรมเวิร์กช็อปสร้างสรรค์งานเซรามิก ท่านจะได้เห็นกระบวนการ ปั้นดิน เพ้นท์สี เคลือบเงา และเผา จนได้ผลงานศิลปะจากเซรามิก สิ่งที่ศิลปินช่างปั้นเซรามิกท้องถิ่นนิยมปั้นคือ อะการิน่า (Ocarina) หรือขลุ่ยรูปไข่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อะการิน่าเป็นเครื่องดนตรีโบราณชนิดหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องบ้านของพวกเขาจากภูตผีปีศาจและความชั่วร้ายทั้งปวง ดังนั้น ท่านจะได้เห็นว่าทุกบ้านจะต้องมีเครื่องดนตรีชนิดนี้ และศิลปินช่างปั้นเซรามิกมักจะสร้างสรรค์อะการิน่าในรูปแบบที่หลากหลาย 
      เยี่ยมชม เบเตเร็กแกลอรี่ (Bay Terek Gallery) ของครอบครัวศิลปินช่างปั้นเซรามิกท้องถิ่น ที่นี่ท่านจะได้ชมงานช่างฝีมือน่ารัก ของกระจุกกระจิก และของที่ระลึกต่าง ๆ โดยศิลปินในท้องถิ่น นอกจากนี้เราอาจจะโชคดี ได้ชมกิจกรรมเวิร์คช็อปจากงานขึ้นรูปแกะสลักโลหะ หรือ การผลิตเครื่องประดับหลากหลายชนิด และงานศิลปะอื่น ๆ ในหมู่บ้านอีกมากมาย 
      นำท่านไปเยี่ยมชม บ้านจิตรกรผู้มากพรสวรรค์ ดาเรีย โกโลแวน (Darya Golovan) ที่เปิดบ้านต้อนรับอย่างอบอุ่น ชมงานจิตรกรรมภาพวาดบนผืนผ้าไหมจีน ภาพวาดทั้งหมดของดาเรีย โกโลแวนมักจะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 
      ได้เวลาอันสมควร ออกเดินทางตามถนนชุย เพื่อไปชม อุทยานแห่งชาติ อูช เชลเม็ก (National Eco Park Uch Elmak) ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางถนนชุย ในเขตหุบเขาคาราโค อูช เชลเม็ก “อูช” (Uch) ภาษาอัลไตแปลว่า “ต้นไม้” “เชลเม็ก” (Elmek, Enmek) แปลว่า “ยอดเขา” อุทยานแห่งชาติอูช เชลเม็ก มี 3 เทือกเขาหลัก มีความสูงของยอด 2,821 เมตร จากระดับน้ำทะเล มี 6 หมู่บ้านเล็กๆในเขตอุทยาน ชาวบ้านที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในหุบเขานี้ คือชนเผ่าพื้นเมืองอัลไตแท้ อาศัยอยู่ที่นี่มาหลายชั่วอายุคน ตามความเชื่อของชาวอัลไต ชาวบ้านไม่สามารถปีนขึ้นถึงยอดเขาได้ นอกจากชามานนิช หรือหมอผี ที่นับถือลัทธิชามานเท่านั้น อุทยานมีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 605 ตร.กม. และใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเทือกเขาเบลูก้า ซึ่งตั้งอยู่ในเทือกเขาคาตุน เป็นเทือกเขาที่มียอดเขาสูงสุดของเทือกเขาอัลไตในประเทศรัสเซีย และเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกที่มีชื่อว่า เทือกเขาสีทองแห่งอัลไต (Golden Altai Mountains) ที่องค์การยูเนสโก้ รับรองในปี ค.ศ. 1998 อุทยานแห่งชาติอูช เชลเม็ก นอกจากเป็นอุทยานที่เปี่ยมล้นไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์อยู่มากแล้ว ยังมีความสำคัญทางโบราณคดีและวัฒนธรรม ที่มีคุณค่าและความสำคัญต่อจิตใจของชาวอัลไตมาช้านาน นักโบราณคดีทั่วโลกต่างยกให้ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ควรค่าแก่การเดินทางไปเยือน ส่วนมุมมองของชาวอัลไตต่อนักโบราณคดีหรือนักท่องเที่ยวนั้นค่อนข้างดี เพราะเชื่อว่า หากใครก็ตามที่ได้เข้ามาในเขตเทือกเขาของพวกเขาได้แล้วนั้น มักจะเป็นคนจิตใจดี เป็นมิตร มาดีและมีทัศนคติที่ดีงามอยู่แล้ว จึงเชื่อว่าความศักดิ์สิทธิ์ของเทือกเขาจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลับไปด้วยความโชคดีถึง 3 เท่า   
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันแบบท้องถิ่นกับชาวอัลไตในอัยยึล หรือ บ้านกระโจม ที่นี่ ท่านจะได้ลิ้มลองรสชาติอาหารประจำชาติต้นตำรับอัลไตโดยแท้จริง
      บ่าย ตกบ่าย พาท่านออกเดินทางต่อไปยัง หุบเขาคาราโค (Karakol Valley) ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานอูช เชลเม็ก ในบรรดาหุบเขาทั้งหมดของอุทยาน ฯ คาราโค ถือว่าเป็นหุบเขาที่ชาวบ้านเชื่อว่ามีสิ่งลี้ลับสถิตอยู่โดยมาก และเป็นสถานที่ฝั่งร่างของบุคคลสำคัญของชนเผ่าไซเธียนส์-เติร์ก หรือเหล่านักบุญต่างๆ และท่านจะได้เห็นร่องรอยศิลปะยุคทองแดงในวัฒนธรรมอะแฟนาเซียฟ (Afanasiev Cuture) คือภาพแกะสลักบนหิน (Petroglyphs) อายุตั้งแต่ราว 5,000 – 7,000 ปีก่อนศริสตกาล พบได้ทางตอนใต้ของไซบีเรีย และหินที่เชิงเขาศักดิ์สิทธิ์เป็นหลักฐานการขุดค้นทางโบราณคดี ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์หลายแห่งของประเทศ เช่น โนโวซีบีร์สค์ บารนัล บิสก์ มอสโก และ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบท้องถิ่นของชาวอัลไต รับชมการแสดงพื้นบ้านและการขับร้องเพลงของชาวอัลไตอันมีอัตลักษณ์เฉพาะตัว (Throat Singing)
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Barskaya-Usadba Tour Base, Karakol Valley หรือเทียบเท่า
  • Day 6
    6) วันที่หก อุทยานแห่งชาติอูช เชลเม็ก - ฐานนักท่องเที่ยวโคเชฟนิก (วันนี้เดินเท้า 2 ก.ม.) (B/L/D)
    • เช้า          รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
      นำท่านออกเดินทางต่อไปตามถนนชุย เลาะเลียบแม่น้ำคาตุน ซึ่งมีความยาว 680 กิโลเมตร และแม่น้ำชูย่า เพื่อไปยัง หุบเขากัลบักตัส (Kalbaktash Gorge) ผ่าน ช่องด่าน เชค ตามัน (Chike Taman Pass) ณ. ความสูง 1,295 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ไฮไลท์เส้นทางนี้คือ ท่านจะได้ชมจุดบรรจบของแม่น้ำสองสาย แม่น้ำคาตุนและแม่น้ำชูย่า เพลิดเพลินไปกับความสวยงามของแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก แรงปะทะเกิดเป็นความกลมกลืนที่ธรรมชาติสรรค์สร้างภาพวิวแม่น้ำสาดกระเซ็นได้อย่างลงตัว 
      นำท่านชม กลุ่มภาพแกะสลักบนหินโบราณ (Unique Collection of Ancient Petroglyphs) ในเขตหุบเขากัลบักตัส
      "เปตรา" แปลว่า "หิน"  "Glyphos" แปลว่า "การแกะสลัก" Petroglyph เป็น ภาพแกะสลัก ที่พัฒนาขึ้นบนหิน ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ จากการรู้จักทำเครื่องหมาย ภาพสกัดหินที่เก่าที่สุดมีอายุมาตั้งแต่สมัยยุคหินเก่า ราว 10,000 ถึง 12,000 ปีมาแล้ว หรือไม่ก็ ราว 7,000 ถึง 9,000 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่มนุษย์จะเริ่มทำรูปภาพ (Pictograph) และ จินตภาพ (Ideogram) แต่ภาพสกัดหินก็ยังเป็นที่นิยมทำกันอยู่ และในบางอารยธรรม ก็ทำกันต่อมาอีกเป็นเวลาช้านาน 
      แม้กระทั่งถึงในช่วงเวลาที่มีการติดต่อกับวัฒนธรรมตะวันตกในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ภาพสกัดหินเป็นงานที่พบโดยทั่วไปในโลก ยกเว้นในบริเวณทวีปแอนตาร์กติกา แต่ที่พบมากที่สุดก็คือในบริเวณทวีปแถบแอฟริกา แถบสแกนดิเนเวีย และ แถบไซบีเรีย ในเขตเทือกเขาอัลไต ซึ่งพบว่ามีภาพแกะสลักหินของบรรพบุรุษชาวอัลไตมากกว่า 5,000 ภาพ และภาพที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุราว 2,000 ปี ทั้งนี้ท่านยังจะได้เห็นซากของวิหารโบราณ ที่สลักอักษรรูนจารึกโบราณ อีกด้วย
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย ได้เวลาอันสมควร ออกเดินทางต่อไปยัง ที่พักนักท่องเที่ยว โคเชฟนิก (Kochevnik Tour Base) ซึ่งเป็นที่พัก
      แนวอีโค่ ห้องอาบน้ำเป็นในแนวบันย่า แบบรัสเซีย (Russian Banya) และเป็นการใช้ห้องน้ำรวม                                                                                                  
      ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Kochevnik Tour Base, Ulagan หรือเทียบเท่า
  • Day 7
    7) วันที่เจ็ด ทุ่งหญ้าคูราย สเต็ปป์ (วันนี้เดินเท้า 7 ก.ม.) (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม 
      นำท่านออกเดินทางเลาะเลียบไปบนถนนเขตพรมแดนมองโกเลีย ชมความงดงามของ หุบเขาแม่น้ำคึซึลชิน (Kyzyl Chyn River Valley) อยู่ท่ามกลางเทือกเขาชุยตอนเหนือที่มียอดเขา อักตรูบัส (Aktru-Bash) เป็นจุดสูงสุด ด้วยความสูง 4,075 เมตรจากระดับน้ำทะเล และ ยอดเขา การาตัส (Karatash) ความสูง 3,534 เมตรจากระดับน้ำทะเลโอบล้อม “คึซึล” (Kyzyl) แปลว่า “สีแดง” แท้จริงแล้วภูมิทัศน์ที่นี่แตกต่างจากที่อื่นอย่างชัดเจน ด้วยความที่หุบเขานี้ประกอบไปด้วย ภูเขาหลายลูกมีสีสันแปลกตาที่ชาวอัลไตเรียกว่า มาร์ส หรือ ดาวอังคาร ภูเขาทั้งหุบมีสีแดงสลับส้มสดใสไปจนถึงสีน้ำตาลเข้มและขาว เก็บภาพความประทับใจ ณ ใจกลางเทือกเขาอัลไต
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย    ออกเดินเท้าเพื่อไปชม ทะเลสาบเกเซอร์ (Geyser Lake or Blue Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ 
      ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านอัคตัส (Aktash) มีความลึกประมาณ 2 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 25-30 เมตร มีกระแสน้ำไหลลงสู่ก้นทะเลสาบ ความแปลกของทะเลสาบคือมีสีเทอร์ควอยซ์สีฟ้าสดใสใต้ก้นทะเลสาบ ซึ่งพบเจอได้ยาก
      พื้นผิวของทะเลสาบสะท้อนรูปแบบวงรีและรอบวงซ้อนกันอย่างประหลาด ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีตและกระบวนการที่เกิดภายใต้พื้นพิภพ ที่น่าตื่นตาตื่นใจไปกว่านั้นคือ ทะเลสาบเกเซอร์นี้ จะคงสภาพเดิมโดยไม่เป็นน้ำแข็งแม้ในฤดูหนาว
      ค่ำ          รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Kochevnik Tour Base, Ulagan หรือเทียบเท่า

  • Day 8
    8) วันที่แปด ชิบิท – ช่องด่านคาตุน - หุบเขาแม่น้ำชูลิสมัน (วันนี้เดินเท้า 3.5 ก.ม.) (B/L/D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม 
      ออกเดินทางต่อไปเพื่อชม แม่น้ำชูลิสมัน (Chulishman River) ระหว่างทางผ่านชม หุบเขาสีแดง หรือ ประตูสีแดง (Red Gates) ซึ่งที่ตั้งชื่อตามสีหินที่มีสีแดง 
      จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เปซึริกส์ (Historical Museum Pazyryk) ในหุบเขาอูลากัน ท่านจะได้พบกับความหลากหลายของโบราณวัตถุยุคโบราณที่ขุดค้นพบจากหลุมฝังศพของชาวไซเธียน ไซบีเรีย ที่อาศัยอยู่ในหุบเขาอูลากัน วัฒนธรรมเปซึริกส์ คือกลุ่มชาติพันธุ์ที่เป็นชนเผ่าเร่ร่อนทางตอนใต้ของไซบีเรีย 
      เดินทางต่อไปยังถนนคาตุน บนความสูง 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเล ลัดเลาะไปตามแนวภูมิประเทศที่เป็นสันเขา ระหว่างทางท่านจะได้ชมวิวหุบเขาแม่น้ำชูลิสมัน ในมุมกว้างแบบพาโนราม่า หุบเขาซึ่งธรรมชาติโอบล้อม 360 องศา ซึ่งอยู่ในเขตของพื้นที่มรดกโลกที่มีชื่อว่า เทือกเขาสีทองแห่งอัลไต (Golden Altai) 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย        เดินทางต่อไปยัง ที่พักนักท่องเที่ยวอีเซน (Ezen Base) ซึ่งตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำชูลิสมัน และมีเทือกเขาคาตุนเป็นฉากหลัง 
      ค่ำ          รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Ezen Base 3*, Chulishman Valley หรือเทียบเท่า
  • Day 9
    9) วันที่เก้า อีเซน - กลุ่มหินเห็ด - แหลมเกอซีย์ในทะเลสาบเตเลสโกย (วันนี้เดินเท้า 5 ก.ม.) (B/L/D)

    • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม สดชื่นกับบรรยากาศยามเช้า
      ออกเดินทางเพื่อไปยังทะเลสาบเตเลสโกย ระหว่างทางท่านจะได้แวะ หุบเขาอักคุรุม (Ak-Kurum Gorge) เพื่อเดินสำรวจชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ คือ กลุ่มหินเห็ด (Stone Mushrooms) เป็นกลุ่มหินทรายตั้งอยู่ตามไหล่เขา ที่ขึ้นฐานทรงกรวยคว่ำ และมีหินทรงกลมหรือเรียบแบน วางบนยอดฐานเสาหินทรายคล้ายดอกเห็ด เป็นกลุ่มหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จากนั้นชมทัศนียภาพอันงดงามของ
      หุบเขาชูลิสมันในมุมกว้างพร้อมเก็บภาพความประทับใจ 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย ได้เวลาอันสมควร นำท่านออกเดินทางต่อเพื่อไปชม ทะเลสาบเตเลสโกย (Teletskoye Lake) โดยชื่อของทะเลสาบมาจากชื่อของชนเผ่าเตเลส (Teles) ที่อาศัยอยู่บริเวณริมชายฝั่งแม่น้ำ ทะเลสาบเตเลสโกย มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า “ทะเลสาบสีทอง” (Altyn Kol) 
      เพราะมีความอุดมสมบูรณ์และเอื้อประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตดุจดั่งทองคำ ทะเลสาบเตเลสโกย มีความยาว 777 กิโลเมตร ความกว้างสูงสุดคือ 5 กิโลเมตร และมีความลึกสูงสุดคือ 325 เมตร และอยู่สูง 436 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทะเลสาบเตเลสโกยได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่องค์การยูเนสโก้ให้การรับรองด้านความหลากหลายทางชีวภาพต่อการดำรงชีวิตมนุษย์ ในปี ค.ศ. 1998 
      จากนั้นนั่งเรือต่อไปชม แหลมเกอซีย์ในทะเลสาบเตเลสโกย (Kyrsay Cape of Teletskoye) ชมความงามของเกาะแก่งริมหน้าผา ตลอดจนถึงบริเวณแหลมเกอซีย์ ซึ่งเป็นแก่งหินยื่นออกมาจากชายฝั่งแม่น้ำ
      ค่ำ เดินทางโดยทางเรือถึง ที่พักนักท่องเที่ยวอิซชูบา (Tourist Base Estuba)
      รับประทานอาหารค่ำ
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Estyba Tour Base, Teletskaya หรือเทียบเท่า  
  • Day 10
    10) วันที่สิบ ที่พักนักท่องเที่ยวอิซชูบา - กอร์โน อัลไตสก์ - บารนัล (B/L/D)
    • เช้า        รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม 
      ออกจากที่พักนักท่องเที่ยวอิซชูบา แล้วออกเดินทางโดยเรือไปยังฝั่ง
      ทิศเหนือของแม่น้ำคาตุน
      จากนั้นนั่งรถต่อไปเข้า เมืองกอร์โน อัลไตสก์ (Gorno-Altaysk) 
      เมืองหลวงของสาธารณรัฐอัลไต
      กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น 
      บ่าย จากนั้นเดินทางกลับไปยัง เมืองบารนัล (Barnaul)
      ค่ำ          รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Central 3*, Barnaul หรือเทียบเท่า
  • Day 11
    11) วันที่สิบเอ็ด บารนัล – กรุงเทพฯ (B/-/-)
    • เช้า      รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
      เช็คเอาท์และออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติบารนัล เตรียมเช็คอินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย 
      07.05 น. เหินฟ้าสู่ เมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย โดยสายการบิน Aeroflot Russian Airlines เที่ยวบินที่ SU1431 (0705-0735) บารนัล – มอสโก (ใช้เวลาบิน 30 นาที) 
      07.30 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชเรเมเตียโว รอเปลี่ยนเครื่อง กลับกรุงเทพฯ
      19.10 น. เหินฟ้าสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Aeroflot Russian Airlines เที่ยวบินที่ SU270 (1910-0830)
  • Day 12
    12) วันที่สิบสอง กรุงเทพฯ (-/-/-)

    • 08.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
Top