ทัวร์อุซเบกิสถาน
ทัวร์
เอเชียกลาง
ระยะเวลา
5 วัน 4 คืน
สายการบิน
วันเดินทาง
Hilight

โกลบอล ฮอลิเดย์ ขอนำท่านเดินทางสู่ศูนย์กลางของ “เส้นทางสายไหม” คือเส้นทาง ทางบกที่ติดต่อระหว่างโลกตะวันตกกับโลกตะวันออก ที่ทอดผ่านใจกลางทวีปเอเชีย และเป็นชุมทางสายไหมในเอเชียกลางคือ “ซามาร์คานด์” เป็นเมืองเก่าแก่ซึ่งยังคงดำรงอยู่ และมีเรื่องราวและประวัติศาสตร์ติดต่อมาจนถึงปัจจุบันนับเป็นพันๆ ปี เกิดวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างเอเชียและยุโรป  กับความรุ่งเรืองของศาสนาอิสลามที่แผ่ขยายเข้ามาในดินแดนนี้ ชมความรุ่งเรืองของเมืองมรดกโลก สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประเทศ  “อุซเบกิสถาน” ประเทศที่ถูกโอบล้อมด้วยประเทศที่ไม่มีทางออกทางทะเล จึงกลายเป็นประเทศ  Double Land Lock  ศูนย์กลางของเอเชียกลาง                                                                                                                                                                                                    

แผนการท่องเที่ยว
  • Day 1
    วันแรกของการเดินทาง กรุงเทพฯ – ทาชเค้นท์ (Tashkent) ( อาหารมื้อ --- / --- / ค่ำ )
    • 05.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการอุซเบกิสถาน ประตูทางเข้าที่ 10 แถว W เจ้าหน้าที่บริษัท โกลบอล ฮอลิเดย์ จำกัด คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินและโหลดกระเป๋า
      08.10 น. เหินฟ้าสู่เมืองทาชเค้นท์ ด้วยเที่ยวบิน HY 532 ใช้เวลาบิน 6.50 ชั่วโมง
      13.00 น. เดินทางถึงสนามบินทาชเค้นท์   (เวลาที่อุซเบกิสถานช้ากว่าประเทศไทย ประมาณ 2 ชั่วโมง)
      หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำท่านสู่เมืองทาชเค้นท์ เมืองหลวงประเทศ อุซเบกิสถาน (Uzbekistan) หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน (Republic of Uzbekistan) เป็นประเทศในเอเชียกลางที่ถูกล้อมรอบด้วยประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล (doubly landlocked country) มีพรมแดนติดประเทศ  อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน  และเติร์กเมนิสถาน  พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชได้ยึดครองดินแดนของประเทศอุซเบกิสถานเมื่อปี 367 ก่อนคริสตกาล ในภายหลังดินแดนนี้ได้ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิเปอร์เซียในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6 ก่อนจะถูกยึดครองโดยจักรวรรดิมองโกลของเจงกีสข่าน เมื่อค.ศ. 1220  ในศตวรรษที่ 13 ขุนศึกชื่อ ติมูร์(Timur; Tamerlane)ได้มีอำนาจเหนือมองโกลและตั้งอาณาจักรของตนเองขึ้นที่เมืองซามาร์คานด์ ซึ่งติมูร์ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ในการสร้างชาติอุซเบกิสถานในยุคปัจจุบัน 
      นำท่านไปยังเขตเมืองใหม่เพื่อชม จัตุรัสเอมีร์ ติมูร์ ( Amir Timur Square ) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์กษัตริย์ เอมีร์ ติมูร์ ทรงม้าอยู่กลางสวนสาธารณะที่เป็นจัตุรัสร่มรื่น ( การมาเยือนอุซเบกิสถานจะไม่สมบูรณ์หากท่านไม่ได้พบรูปปั้นท่านเอมีร์ ติมูร์ ซึ่งจะปรากฏอยู่ตามเมืองต่างๆ ) 
      จากนั้นชม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งราชวงศ์ติมูร (The State Musuem of Timurid History) เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งราชวงศ์ Timurid พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติยศของวีรกษัตริย์ยอดนักรบ เอมีร์ ติมูร์ ผู้เป็นต้นกำเนิดราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่และเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวอุซเบกิสถานมาจนถึงปัจจุบัน  
      นำท่านชม Independence Square หรือ Mustakillik Square เป็นหัวใจของเมืองทาชเค้นท์ และเป็นสัญลักษณ์ของความอิสระและอิสรภาพของคนในชาติ ทางเข้าสู่ Mustakillik Square ถูกออกแบบด้วย Arch Ezgulik (prosperity) กับนกแปดตัวบินขึ้นสู่ท้องฟ้าผ่านความหวังไปยังใจกลางของ Mustakillik Square
      นำท่านชม จัตุรัสคาสต์อิมาม (Khast-Imam Square)  ที่นี่มีหลายอาคารซึ่งเป็นศูนย์กลางศาสนาอิสลามของเมืองมีทั้งมัสยิด โรงเรียนสอนศาสนา สุสานบุคคลสำคัญในอดีต สำนักงานใหญ่ศาสนาอิสลามแห่งชาติ อาคารตรงกลางสุดชื่อว่าบารัคข่านมาดราซา(Barak-khan madrasah)   สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ภายในแบ่งเป็นห้องๆ มี 35 ห้อง เดิมเคยใช้เป็นห้องเรียนหรือห้องนอนสำหรับนักศึกษาศาสนาอิสลาม คำว่ามาดราซา (madrasah) คือโรงเรียนหรือวิทยาลัยสอนศาสนาอิสลามและนักเรียนที่เรียนมักจะกินอยู่หลับนอนในโรงเรียนเหมือนเป็นโรงเรียนประจำ 

      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ   จากนั้นนำท่านเข้าพักที่โรงแรม  MIRAN INTERNATIONAL HOTEL -4* หรือเทียบเท่า

  • Day 2
    วันที่สองของการเดินทาง ทาชเค้นท์ - ซามาร์คานด์ (Samarkand) ( อาหารมื้อ เช้า / กลางวัน / ค่ำ )
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
      ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่สถานนีรถไฟ
      08.00 น. เดินทางสู่เมืองซามาร์คานด์ ด้วยรถไฟความเร็วสูง “ Afrosiyob”
      10.08 น. ถึงเมืองซามาร์คานด์ เมืองโบราณเก่าแก่อายุกว่า 2500 ปี  และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากทาชเค้นท์ มีชื่อเรียกในอดีตว่ามาราคานดา (Marakanda)  พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชเคยนำกองทัพมายึดครองเมืองนี้  และได้แต่งงานกับสาวพื้นเมืองนามว่าโรแซนา (Roxana) หลังจากนั้นได้เปลี่ยนมือไปอยู่ภายใต้กองทัพเติร์ก  อาหรับ     มองโกล   และอดีตกษัตริย์ติมูร์เคยเลือกเมืองซามาร์คานต์เป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิติมูร์ 
      จากนั้นนำท่านชม  เรจิสถาน (Registan Square) จัตุรัสกลางเมืองซามาร์คานด์ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ใช้เป็น
      ศูนย์กลางการค้าและช่างฝีมือ ที่งดงามด้วยศิลปะแบบอิสลาม กระเบื้องภายนอกตกแต่งด้วยสีฟ้าสดใส เป็นสัญลักษณ์สำคัญของซามาร์คานด์ในปัจจุบัน โดยรอบมีโรงเรียนสอนศาสนา 3 แห่ง ตั้งอยู่รายล้อมคือ อุลุกเบก (Ulug Beg) และเซียดอร์ (Shir Dor)  และทิลยาคาริ ( Tilys Kari )     
      จากนั้นชม Gur Amir  ที่ฝังศพของหลานชายสุดที่รักของข่านติเมอร์ (Timur)  นามว่า Muhhamed Sultan สร้างในปี ค.ศ. 1404  หลังจากนั้น 1 ปี ติเมอร์ (Timur) เสียชีวิตลง ลูกชายของ Timur เองได้ย้ายที่ฝังศพพ่อมาอยู่รวมกับหลานรัก ณ เวลานั้นสถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่า “Burial-vault of Timurids” ซึ่งภายในจะมีโลงศพหินอ่อน 7 โลงที่ล้อมรอบโลงหินหยกเขียวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของติมูร์ ส่วนโลงที่เป็นของจริงอยู่ในสุสานชั้นใต้ดินในปี ค.ศ. 1941 นักสำรวจชาวโซเวียตได้เปิดโลงศพ จากการศึกษาโครงกระดูกพบว่าติมูร์มีความสูงถึง 170 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลทึ่มีความสูงมากในสมัยนั้น และพบว่าท่านพิการที่ขาขวา จึงเป็นที่มาของชื่อเทเมอร์เลน (Tamerlane) ซึ่งมาจาก Tamer the lame แปลได้ประมาณว่าเทเมอร์ (ติมูร์) ผู้ไม่สมประกอบ   

      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 
      บ่าย จากนั้น ชม หอดูดาวอูลุกเบ็ก (Ulugbek Observatory) สร้างโดยข่าน Ulugbeg ในปี ค.ศ. 1428-1429 เป็นอาคาร 3 ชั้น สูง 30 เมตร ด้านบนยอดคล้ายโดม  พิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวทางดาราศาสตร์ สิ่งประดิษฐ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ดูดาว ซึ่งแสดงถึงอัจฉริยะทางดาราศาสตร์ของข่าน ที่เคยคำนวนรอบปีเฉียดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากที่ Ulugbeg เสียชีวิต หอดูดาวก็ได้รับความเสียหายจากขโมยและพวกคลั่งศาสนา แต่โชคดีที่ชั้นล่างไม่ถูกทำลาย ต่อมาได้รับการซ่อมแซมขึ้นมาใหม่  
      ชม มัสยิดบีบี คานิม (Bibi-Khanum Mosque) สร้างโดยข่านติมูร์ โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1399 – 1404 ใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี โดยใช้ช่างฝีมือจากหลายประเทศ โดยตั้งใจจะสร้างให้เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อแสดงอำนาจที่สามารถพิชิตดินแดนในอินเดียได้  ต่อด้วยการนำท่านเดินสำรวจตลาดพื้นเมือง ที่จำหน่ายสินค้าจำพวกถั่วต่างๆ ผลไม้สดนานาชนิดตามฤดูกาล  
      นำท่านชม ชาฮิซินดา คอมเพล็กซ์ (Shakhi-Zinda Complex) ซึ่งเป็นที่รวบรวมสุสานขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขาอฟราซิยาบ (Afrosiab) ซึ่งด้านนอกกำแพงเมืองเก่าเป็น Necropolis ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 และเป็นความคิดของ ข่านทามาเลน ที่ต้องการให้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางสุสานของบุคคลที่มีชื่อเสียง มีอาคารหลายยุคหลายสมัยให้ศึกษา รวมทั้งกระเบื้องเคลือบโบราณน่าสนใจอยู่มากมาย 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  
      พักผ่อนที่โรงแรม  DIYORA HOTEL - (4*) หรือเทียบเท่า

  • Day 3
    วันที่สามของการเดินทาง ซามาร์คานด์ (Samarkand) – บุคาร่า (Bukhara) ( อาหารมื้อ เช้า / กลางวัน / ค่ำ )
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
      นำท่านเดินทางลงมาทางใต้ของเมืองซามาร์คานด์สู่ชาคริซาบซ์ (ระยะทาง 90 กิโลเมตรใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) บ้านเกิดของข่านเอมีร์ติมูร์ผู้สร้างอณาจักรติมูร์และทำให้ชื่อเสียงของซามาร์คานด์เป็นที่รู้จักและจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ 
      นำชมซากพระราชวังอักซาไร (Ak Saray Palace) ที่ข่านเอมีร์ติมูร์มีประสงค์จะสร้างให้ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับมัสยิด Bibi-Khanym สร้างโดยช่างฝีมือจากหลายสาขาที่ชำนาญในเรื่องกระเบื้องเคลือบ 
      ชมสุเหร่า กุกกุมบาซ ที่เอมีร์อูลุกเบ็กให้สร้างขึ้นในศต.ที่ 15 เป็นสุเหร่าวันศุกร์เพื่อเป็นเกียริตให้แก่ชารุกห์พระบิดา ภายในจะมีแท่นหินสีดำ ที่ถือกันวาเป็นหินมนต์วิเศษให้ผู้นับถือเอามือมาแตะเพื่อขอพร
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย เดินทางสู่ บุคาร่า โดยรถโค้ช (ระยะทาง 268 กม. ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง) 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  จากนั้นพักผ่อนที่โรงแรม ASIA BUKHARA HOTEL - (4*) หรือเทียบเท่า

  • Day 4
    วันที่สี่ของการเดินทาง บุคาร่า (Bukhara) - ทาชเคนท์ (Tashkent) ( อาหารมื้อ เช้า / กลางวัน / ค่ำ )
    • เช้า รับประทานอาหารเช้า
      ชมเมืองบุคาร่า Bukhara ตั้งอยู่ทางแยกบนเส้นทางการค้าสายไหมโบราณเป็นสถานที่ที่อยู่ใจกลางเอเชีย ที่นี่คุณ สามารถพบกับสีสันของตะวันออกและความลี้ลับของเมืองบุคาร่าที่สมัยก่อนเคยเป็นที่พักของกองคาราวานเป็น ศูนย์กลางการค้าของเส้นสายไหมและมีร้านค้ามากมาย มีพิพิธภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะที่ตั้งอยู่ที่นั่นมากกว่า 140 แห่ง  นำท่านชมสถานที่สำคัญ ได้แก่  Pan-Kalyan หมู่อาคารที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของเอเชียกลาง สร้างระหว่างศตวรรษ ที่ 12-16 ประกอบไปด้วยมัสยิด KALYAN ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่มีความสูง 48 เมตร ARSLAN- KHAN MINERATE อันเป็นสัญลักษณ์ของบุคาร่าที่สามารถ เห็นได้แต่ไกล 
      ชม หอคอยกัลยัน The Kalyan Minaret สร้างขึ้นในปี 1127 โดยอาสลานข่าน แห่งราชวงศ์คารานิด หอแห่งนี้สามารถทำให้ผู้พบเห็นต้องตกตะลึงกับความโอ่อ่าและความงดงาม หอแห่งนี้ถูกออกแบบเพื่อใช้ในการเรียกประชุมชาวมุสลิม และเพื่อสวดมนต์ 5 ครั้งต่อวัน (การทำละหมาด) หอ Kalyan   สร้างขึ้นถึง 2 ครั้ง เพราะได้พังลงก่อนที่จะสร้างเสร็จในครั้งแรก เนื่องจากบริเวณที่ก่อสร้างมีพื้นดินนิ่มเพราะว่ามีการเพาะปลูกในเมืองนี้  หอกัลยันมีการประดับด้วยไม้สีอิฐเป็นกระดานหมากรุก และลักษณะรูปร่างของหอในส่วนที่สูงที่สุดจะเป็นรูปทรงกลม ตอนที่มีสงครามหอแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นหอสังเกตการณ์ แต่ปัจจุบันส่วนที่สูงที่สุดด้านซ้ายได้กลายเป็นรูปทรงกวย
      จากนั้นชม สุเหร่ามาโกกิ อัตตาร์ ตั้งอยู่กลางเขตเมืองเก่า เป็นสุเหร่าที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียกลาง ตั้งอยู่ต่ำกว่าพื้นถนนประมาณสามเมตร สร้างขึ้นในยุคที่อาหรับเข้ามาพิชิตดินแดนแถบนี้ ชมมิริอาหรับมาดราซ่าห์ อยู่ตรงข้ามกับสุเหร่ากัลยัน 
      มิริอาหรับแปลว่า เจ้าแห่งอาหรับ เคยใช้เป็นที่สอนศาสนา 
      ชมย่านเลียบิเฮ้าส์ ภาษาทาจิก หมายถึง “รอบหรือริมสระน้ำ” เป็นบริเวณจัตุรัสหรือพล่าซ่า สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1620  สระน้ำขุดขึ้นตามบัญชาของมุขมนตรีเนดีร์ ดิวานเบกิ เป็นสระน้ำที่ใหญ่ที่สุดของบุคาร่า กว้าง 36 เมตร  ยาว 45 เมตร มีต้นมัลเบรี่ใหญ่อายุหลายร้อยปีอยู่ตามมุมสระรายรอบ มีร้านอาหารรอบสระน้ำ  
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 
      บ่าย นำท่านชม สถานฝังศพแห่งซามานิดส์ (Samani Dynasty Mausoleum) ตั้งอยู่ในเขตสวนสาธารณะซามานิเขตเมืองเก่า ในอดีตเป็นสุสานโบราณนอกกำแพงเมืองชั้นในสร้างโดยอิลซามานิ-ผู้ก่อตั้งราชวงศ์และจักรวรรดิซามานิ ในปลายศตวรรษที่ 9-10 เพื่อฝังพระบิดานับเป็นสถานฝังศพแห่งแรกที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียกลาง อาคารเป็นทรงลูกบาศก์ซี่งใช้อิฐที่ก่อสร้างเป็นลวดลายในตัวเอง ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกที่มีมาก่อนสถาปัตยกรรมของอิสลาม 
      ชม บ่อน้ำชาสมา-อยุบ ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากนักบุญชื่ออยุบที่เคยเดินทางมา ณ ที่นี้ แล้วใช้ไม้เท้าเนรมิตบ่อน้ำเป็นน้ำรักษาโรค ชม สุเหร่าโปโลเฮ้าส์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1712 – 1713 ด้านหน้าอาคารมีเสาไม้ประดับลวดลายตั้งรับหลังคา นับเป็นตัวอย่างอาคารสุเหร่าสมัยกลางของเอเชียกลาง ในปี 1917 เอมีร์ใช้เป็นสุเหร่าทางการเพื่อทำละหมาด  
      ชม ป้อมอาร์ค ( The Ark Fortress)  ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบุคาร่า เป็นป้อมเก่าแก่สร้างในศตวรรษที่ 5 ครั้งหนึ่งในอดีตมีผู้อาศัยอยู่ในป้อมแห่งนี้ถึง 3,000 คน  ตัวป้อมสามารถใช้เป็นเกราะกำบังสำหรับป้องกันศัตรูที่จะเข้ามารุกรานอาคารเป็นรูปทรงลูกบาศก์ก่ออิฐ โดยใช้อิฐที่ก่อสร้างเป็นลวดลายในตัวเองและได้รับยกยองว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามของเอเชียกลาง
      ค่ำ จากนั้นรับประทานอาหารค่ำ 
      นำท่านเดินทางสู่สนามบิน
      22.50 น. เหิรฟ้าสู่ทสู่ทาชเคนท์ โดยสายการบินอุซเบกิสถาน เที่ยวบินที่ HY 204
      23.50 น. เดินทางถึงเทาชเคนท์ นำท่านพักผ่อนที่โรงแรม MIRAN INTERNATIONAL HOTEL -  (4*) หรือเทียบเท่า

  • Day 5
    วันที่ห้าของการเดินทาง ทาชเค้นท์ - กรุงเทพฯ ( อาหารมื้อเช้า)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
      ได้เวลาสมควรเดินทางสู่สนามบิน
      09.20 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินอุซเบกิสถาน กลับประเทศไทย โดยเที่ยวบิน HY533
      17.20 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ

      ******************************
      ***หมายเหตุ – โปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการปรับเปลี่ยนตารางบิน และในการเดินทางอาจมีปัญหาเฉพาะหน้า ดังนั้นรายการอาจมีปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม
      สงวนสิทธิ์โปรแกรม โดยโกลบอล ฮอลิเดย์
Top