ทัวร์เนปาล
ทัวร์
เอเชีย
ระยะเวลา
6 วัน
สายการบิน
วันเดินทาง
11-16 เมษายน 2563 (สงกรานต์)
Hilight

          ทัวร์เนปาลสุดคุ้มค่า ทัวร์เนปาลราคาถูก ท่องหิมาลัยไปทัวร์เนปาล 6 วัน ไปกับโกลบอล  ฮอลิเดย์ ชำนาญเส้นทางมากประสบการณ์ รับจัดทัวร์เนปาล เปิดประตูสู่หิมาลัยร่วมค้นหาเสน่ห์มนตราอันลึกลับของ เนปาล ประเทศเล็กๆ ท่ามกลางอ้อมกอดแห่งขุนเขาหิมาลัย ณ ใจกลางทวีปเอเชีย
          ทัวร์เนปาล เปิดประตูสู่หิมาลัยร่วมค้นหาเสน่ห์มนตราอันลึกลับของ เนปาล ประเทศเล็กๆท่ามกลางอ้อมกอดแห่งขุนเขาหิมาลัย ณ ใจกลางทวีปเอเชีย หนึ่งในสถานที่ใฝ่ฝันของเหล่านักเดินทางและนักปีนเขา หุบเขากาฐมัณฑุ หุบเขาแห่งศิลปวัฒนธรรม ศาสนา และความเชื่อที่หลอมรวมศาสนาฮินดูและพุทธไว้อย่างกลมกลืน เดินชมเมืองกาฐมัณฑุ บักตาปูร์ และ ปาทัน อารยธรรมแห่งเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยผลงานสถาปัตยกรรมตระการตา ทาบทาด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาของชาวเนปาลีที่โอบอ้อมอารีและเป็นมิตรต่อผู้คน ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าและแรกแย้มรับอรุณทักทายยามเช้าบน ยอดเขานาการ์ก็อต รอบล้อมด้วยทัศนียภาพของเทือกเขาหิมาลัยตะวันออก เตรียมพบกับเจ้าแม่ซาการ์มาทา (เขาเอเวอร์เรสต์) ในยามฟ้าเปิดเป็นใจให้ชื่นยล เยือน โภครา ชุมทางของบรรดาเหล่าชนนักปีนเขาจากทั่วโลก นำท่านขึ้น ดอยซารังกต สัมผัสกันให้เต็มตากับบรรดาเทือกเขาสูงน้อยใหญ่แต่สูงติดอันดับโลกของเทือกเขาหิมาลัยฝั่งตะวันตก พายเรือน้อยลอยวนในสายชลบนทะเลสาบเฟว่าที่สะกดให้ท่านตกอยู่ในมนต์ขลัง ทัวร์เนปาล ... อารยะกลางหิมาลัย

แผนการท่องเที่ยว
  • Day 1
    กรุงเทพ - กาฐมัณฑุ
    • 07.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 5 เคาน์เตอร์ H-J สายการบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินด้านสัมภาระและเอกสารให้กับท่าน
      10.30 น. เหินฟ้าสู่เมือง กาฐมัณฑุ (Kathmandu) ประเทศเนปาล โดยเที่ยวบิน TG319 (10.30-12.45) 
      (อาหารกลางวันบนเครื่องบิน)   (ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมง 25 นาที)
      12.45 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติตริภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว พบกับมัคคุเทศก์ท้องถิ่นรอต้อนรับ เพื่อนำท่านเดินทางไปยังใจกลางเมืองหลวงกาฐมัณฑุ 6 กิโลเมตร  
      (กรุณาปรับนาฬิกาของท่านตามเวลาของท้องถิ่น เวลาที่เนปาล ช้ากว่า เวลาที่เมืองไทย 1 ชั่วโมง 15 นาที)
      บ่าย นำท่านเดินทางสู่  เมืองปาทัน  (Patan) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ลาลิตปูร์ แปลว่า เมืองอันงดงาม เพราะนครโบราณ
      แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางงานวิจิตรศิลป์และหัตถศิลป์ชั้นเลิศ รวมทั้งเครื่องทองเหลือง และการหล่อพระพื้นเมือง เมืองปาทันจัดเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของเนปาล 
      นำเที่ยวใจกลางเมือง ณ จัตุรัสราชวังแห่งปาทัน หรือ ปาทัน เดอร์บา สแควร์ (Patan Durbar Square) ท่านจะได้ชม วิหารพระกฤษณะหรือ
      กฤษณะมันดีร์ ซึ่งสร้างถวายแด่องค์พระกฤษณะในปางที่พระวิษณุได้อวตารมาเป็นพระกฤษณะตามคติความเชื่อของชาวฮินดู แต่ที่สำคัญคือ รูปแบบทางสถาปัตยกรรมของวิหารแห่งนี้ได้กลายเป็นจุดเด่นประจำเมืองไปเลย เพราะสร้างด้วยหินแกรนิตสีเทาทั้งหลัง อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปและเดินชมรอบๆ จัตุรัสแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยพระราชวังโบราณ วัด และโบสถ์ที่เก่าแก่มีชื่อเสียงที่โดดเด่นอย่างยิ่งเรื่องการแกะสลักอย่างประณีตงดงาม รวมถึงอาคารที่ตั้งโดยรอบจัตุรัสก็เป็นบ้าน
      เรือนของชาวบ้านที่แกะสลักบานประตูและหน้าต่างอย่างสวยงามอีกเช่นกัน และสถานที่แห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก้ในปีค.ศ.1979 
      นำท่านเดินไปชม รัตนการ์มหาวิหาร (Ratnakar  Mahavihar) หรือ วังกุมารีแห่งเมืองลาลิตปูร์ (Lalitpur Living Goddess) เป็นสถานที่พำนักของเทพธิดากุมารีประจำเมืองนี้ ซึ่งเป็นเทพธิดาถือพรหมจรรย์ที่มีชีวิตองค์หนึ่งในโลก (Living Goddess) และเป็นที่เคารพนับถืออย่างสูงของชาวเนปาลและเมืองปาทัน ลักษณะเป็นวิหารเก่าแก่ และอาณาบริเวณภายในวัดจะประกอบไปด้วยส่วนของพุทธที่มีอาคารวิหารหลังคาซ้อน 3 ชั้น มีแผ่นทองเป็นเส้นยาวลงมาจรดพื้นดินโดยสร้างตามคติความเชื่อที่ว่าเป็นบันไดทางเดินขึ้นไปสู่สวรรค์ สำหรับส่วนของฮินดูก็จะอยู่รายล้อมขนาบซ้ายขวาในอาณาบริเวณเดียวกัน ณ ที่นี่ท่านจะได้สามารถเข้าไปสักการะขอพรกับเทพธิดากุมารีได้หากท่านประทับอยู่ 
      ** วังกุมารีแห่งนี้ท่านสามารถเข้าชมและถ่ายรูปเทพธิดากุมารีได้ (โดยไกด์ท้องถิ่นจะต้องขออนุญาตก่อนนำขึ้นไปบนวิหารของกุมารี) **   
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารท้องถิ่น 
        เข้าสู่โรงแรมที่พัก HIMALAYA HOTEL 4*, KATHMANDU หรือเทียบเท่า

  • Day 2
    กาฐมัณฑุ
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      นำท่านเดินทางไปยัง วัดปศุปฏินาท (Pashupatinath) ซึ่งสร้างถวายแด่พระศิวะ ตามคติความเชื่อที่ว่าพระองค์เป็นเจ้าแห่งสัตว์ทั้งปวง วัดนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบักมาตี (Bagmati) จัดว่าเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวฮินดูในเนปาลและประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง (ขอบอกว่าสงวนเฉพาะชาวฮินดูเท่านั้นที่จะเข้าไปในตัววัดได้) ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นสถานที่ใช้เผาศพของชาวฮินดูแม้แต่กษัตริย์และราชวงศ์ของทางเนปาลเอง  
      เดินทางไปนมัสการ เจดีย์สวยมภูนาท (วัดลิง) (Swayambhunath) เจดีย์ทางพุทธศาสนาอันเลื่องชื่อของเนปาล นับเป็นเจดีย์องค์หนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่องค์เจดีย์จะมีรูปคิ้วและดวงตาอยู่โดยรอบทั้ง 4 ด้าน ซึ่งหมายถึงดวงพระเนตรเห็นธรรมแห่งพระพุทธองค์เพ่งมองออกไปทั้ง 4 ทิศ (ลองเทียบกับปราสาทบายนที่เขมรดูได้) โดยความจริงแล้วเจดีย์แห่งนี้เป็นเจดีย์องค์แรกแห่งการสร้างเมืองเนปาลเลยก็ว่าได้ เริ่มจากการที่พระมัญชุศรีจากทางจีนมหายานได้มาสร้างองค์สถูปครอบดวงไฟดวงนี้ไว้ ดวงไฟนี้เป็นดวงไฟที่เกิดขึ้นเองเป็นสัญลักษณ์แทนพระอาทิพุทธตามคติวัชรยาน ด้วยเหตุนี้ “สวยมภู” จึงหมายถึงผู้ที่เกิดขึ้นเอง นอกจากนี้ท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์โดยรอบของเมืองกาฐมัณฑุได้อีกด้วย 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
      บ่าย นำท่านเดินทางต่อไปยัง จัตุรัสราชวังแห่งกาฐมัณฑุ หรือกาฐมัณฑุ เดอร์บา สแควร์แห่งนครกาฐมัณฑุ  (Kathmandu Durbar Square) พาเที่ยวชม พระราชวังหนุมานโดก้า เป็นพระราชวังเก่าแก่ของกษัตริย์แห่งประเทศเนปาล หินศิลาจารึกบริเวณหน้ากำแพงวังที่สลักด้วยอักษร 16 ภาษา โดยกษัตริย์ในสมัยก่อนท้าทายผู้กล้าที่อ่านออกไว้ว่า ถ้ามีผู้ใดอ่านออกหมดทุกภาษาดังที่พระองค์กำหนดนั้น น้ำนมก็จะไหลออกมาจากท่อที่ติดอยู่ใกล้ๆ แผ่นจารึก 
      เดินต่อไปชม วิหารตาเลจู ก็ถือว่าเป็นจุดเด่นของที่เที่ยวแห่งนี้อีกเช่นกัน เพราะเทพธิดาองค์นี้มีความสัมพันธ์กันกับกุมารี (แต่อย่างไรนั้น ต้องฟังไกด์ดูละกัน) แวะชมตลาดขายของพื้นเมืองในราคาท้องถิ่นที่ชาวเนปาลนิยมซื้อกันจำพวกภาชนะเครื่องทองเหลือง และมีมุมตลาดลูกปัดที่ราคาย่อมเยากว่าที่บ้านเรา 
      จากนั้นนำท่านเข้าชม Royal Palace Museum ซึ่งเพิ่งเปิดให้ได้เข้าชมเมื่อปีค.ศ. 2008  
      จุดท่องเที่ยวสำคัญต่อมาคือ การเยี่ยมชม วิหารกุมารี (Temple of Kumari) หรือที่พำนักของเทพธิดากุมารี ซึ่งเป็นเทพธิดาถือพรหมจรรย์ที่มีชีวิตองค์เดียวในโลก และเป็นที่นับถืออย่างสูงของชาวเนปาล 
      **การเข้าชมวิหารวังกุมารีแห่งนี้ท่านสามารถถ่ายรูปได้เพียงแค่ตัววิหารเท่านั้น ห้ามถ่ายรูปองค์เทพธิดากุมารีแห่งนครกาฐมัณฑุเด็ดขาด เพราะชาวเนปาลให้ความนับถือองค์นี้อย่างเคร่งครัด ห้ามเผยแพร่และจะออกมาให้ยลโฉมเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น "กุมารี” จะออกจากวังเมื่อมีเทศกาลพิธีการสำคัญๆของเนปาลเท่านั้น**
      ในอาณาบริเวณแห่งนี้ ท่านจะได้เต็มอิ่มกับวิหารต่างๆ มากมายที่สร้างถวายแด่ทวยเทพของฮินดู ไม่ว่าจะเป็นพระศิวะ พระวิษณุ รวมทั้งวิหารที่พวกยิปปี้ในสมัยก่อนชอบมานั่งเล่นกันในบริเวณเดียวกันนี้ ยังเป็นที่ตั้งของอาคารแห่งหนี่งที่เรียกว่า “กาฐมัณฑป” ซึ่งเป็นอาคารที่เขาเล่ากันว่า ใช้ไม้ต้นเดียวสร้างขึ้นมา จริงหรือไม่จริงก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่าน เพราะเขา “เล่ากันมา” ชื่อของอาคารแห่งนี้ยังเป็นที่มาของชื่อเมืองกาฐมัณฑุด้วยเช่นกัน 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารท้องถิ่น 
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก HIMALAYA HOTEL 4*, KATHMANDU หรือเทียบเท่า

  • Day 3
    กาฐมัณฑุ - โภครา
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      นำชม วัดพุทธนาท (Boudhanath) เป็นวัดทางพุทธศาสนาสร้างตามศิลปะแบบทิเบต เป็นวัดที่มีสถูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนปาล ท่านสามารถเดินขึ้นไปที่ด้านบนได้เพื่อชมวิวโดยรอบ (อย่าลืมว่าจะต้องเดินเวียนประทักษิณาวัตร) ในระหว่างที่เดินเวียนขวา 3 รอบนั้นท่านจะเห็นผู้คนชาวทิเบตคอยหมุนกงล้อมนตราประดับอยู่โดยรอบ และมักจะท่องมนต์ไปตลอด ซึ่งนับว่าเป็นการปฏิบัติสมาธิและบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในรูปแบบของชาวพุทธทิเบต ทั้งยังมีวัดลามะแบบทิเบตนั้นตั้งอยู่ในบริเวณนี้เช่นกัน ลองเข้าไปชมดูได้ ถ้ายังไม่มีโอกาสไปถึงทิเบต  
      10.30 น. เดินทางไปยังสนามบินตรีภูวัน กาฐมัณฑุ เพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่ เมืองโภครา (Pokhara) เป็นเมืองพักตากอากาศที่มีธรรมชาติงดงามและมักมีผู้คนและนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์มากที่สุด เนื่องจากที่โภคราท่านสามารถเห็นบรรดายอดเขาที่มีความสูงมากกว่า 6,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ได้ใกล้มากที่สุด อาทิเช่น ยอดเขาหางปลา (Mt.Machapuchare) สูง 6,977 เมตร และ ยอดเขาอันนาปูร์ณา 1 (Mt. Annapurna 1) สูง 8,091 เมตร เป็นต้น 
      12.30 น. เหินฟ้าสู่ โภครา โดยสายการบิน Yeti Airlines เที่ยวบินที่ YT679 KTM-PKR (12.30-12.55)  (ใช้เวลาบิน 25 นาที) 
      12.55 น. เดินทางถึงเมืองโภครา หลังจากรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว คณะมุ่งหน้าตรงไปยังร้านอาหารทันที
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
      บ่าย นำท่านชม น้ำตกเดวี่ (Devi's Fall) ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีความลึกมาก ชื่อน้ำตกตั้งตามชื่อของผู้ที่มาเสียชีวิตที่นี่ ซึ่งยังคงคลุมเครืออยู่ว่าเป็นชื่อใดแน่ หากท่านมาเยือนในฤดูน้ำหลาก ท่านจะเห็นความแรงของกระแสน้ำและเข้าใจว่าทำไมเขาจึงเสียชีวิต ลองศึกษาภาพจริงที่วางขายหน้าประตูทางเข้าได้  
      ต่อนำท่านชม พุทธเจดีย์สีขาวสูง 115 ฟุตที่สร้างขึ้นให้เป็น เจดีย์สันติภาพโลก (Shanti Stupa) แห่งแรกของเนปาล ณ บริเวณยอดเขาอนันดาฮิลล์ ถือเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามแห่งหนึ่งของโภครา
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก HIMALAYAN FRONT HOTEL 4*, POKHARA หรือเทียบเท่า 

  • Day 4
    โภครา - กาฐมัณฑุ - นาการ์ก็อต
    • เช้าตรู่ ตื่นแต่เช้าตรู่ พาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ เขาซารังกต ท่านจะเบิกบานใจกับความงามของ ยอดเขามัจฉาปูชะเรหรือ ยอดเขาหางปลา(Mt.Machapuchare) ที่จัดว่าสูงและสวยงามที่สุดแห่งเทือกเขาหิมาลัยด้านฝั่งตะวันตกในยามที่แสงอรุณโผล่จรัสเหนือขอบฟ้าอย่างบรรเจิดบรรจง 
      เมื่อได้เวลาพอสมควร เดินทางกลับโรงแรมที่พักเพื่อรับประทานอาหารเช้า   
      สนุกสนานกับการล่องเรือใน ทะเลสาบเพวา (Phewa Lake) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของเนปาล บรรยากาศดีมาก ระหว่างทางจะผ่านกำแพงพระราชฐานตากอากาศของกษัตริย์เนปาล ณ บริเวณกลางทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ วัดบาราฮี (Barahi Temple) ซึ่งสร้างถวายองค์พระแม่ทุรคา เป็นปางหนึ่งขององค์พระแม่อุมา ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองโภคราจะมากราบนมัสการทุกเช้าเพื่อขอพร  
      อิสระให้ท่านจะได้เดินเล่นบนถนนเลียบทะเลสาบที่เป็นย่านร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
      หลังอาหาร เดินทางสู่สนามบินโภครา เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ กาฐมัณฑุ 
      13.15 น. เหินฟ้าสู่ กาฐมัณฑุ โดยสายการบิน Yeti Airlines เที่ยวบินที่  YT680 PKR-KTM (13.15-13.40)
      13:40 น. เดินทางกลับมาถึงเมืองกาฐมัณฑุอีกครั้ง เดินทางต่อสู่ เมืองนาการ์ก็อต (Nagarkot) เมืองตากอากาศของชาวเนปาลี ชมพระอาทิตย์ตกดินบนยอดเขา ณ สถานที่ตั้งของโรงแรมที่พัก  ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งบนยอดเขานาการ์ก็อต ยอดเขานี้ตั้งอยู่ ณ ระดับความสูงประมาณ 2,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
      เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารของโรงแรม
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก MYSTIC MOUNTAIN HOTEL 4*, NAGARKOT หรือเทียบเท่า


  • Day 5
    นาการ์ก็อต - บักตาปูร์ - กาฐมัณฑุ
    • เช้า ตื่นแต่เช้าตรู่ เตรียมกล้องให้พร้อมเพื่อบันทึกภาพพระอาทิตย์ขึ้น ในวันที่อากาศดีและฟ้าเปิด ท่านสามารถมองเห็นยอดเขาเอเวอร์เรสต์ (Everest) หรือเรียกในภาษาท้องถิ่นว่า ซาการ์มาทา (Sagarmatha) และยอดเขาอื่นๆ บนเทือกเขาหิมาลัยได้ชัดเจน (ถ้าเมฆหมอกยังคงมีใจปราณี ไม่เข้ามาบดบัง) 
      รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
      อิสระให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย
      เดินทางกลับสู่นครกาฐมัณฑุ ระหว่างทางแวะชม Changu Narayan เป็นมรดกโลกและเป็นวัดที่เก่าแก่ในเมืองกาฐมัณฑุ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3 เพื่อสร้างถวายพระวิษณุ เป็นวัดที่สร้างจากหิน โลหะ และงานไม้ที่ดีที่สุด
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
      แล้วเดินทางต่อสู่ เมืองบักตาปูร์ (Bhaktapur) เป็นเมืองที่เรียกได้ว่าน่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ทั้งเมืองก็ว่าได้ ท่านอาจจะหลงใหลไปกับการถ่ายรูปและการเดินผ่านร้านค้าตามทางสู่ จัตุรัสพระราชวัง (Bhaktapur Durbar Square) ขอบอกว่ากว่าจะผ่านด่านวัดใจเหล่านี้ได้ก็ไม่ง่ายนัก  ณ ที่แห่งนี้ ท่านจะได้ชมพระราชวัง 55 พระแกล ประตูทองคำ ซึ่งเป็นสุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมที่งดงาม อันเคยปรากฏให้เห็นในภาพยนตร์ชุด A Little Buddha  และวิหารต่างๆที่สร้างในศิลปะทั้งแบบทรง “ศิขร” ซึ่งเป็นอิทธิพลทางอินเดียตอนเหนือ (ถ้าไกลไป ก็ลองเทียบกับที่พุกามได้ ส่วนของไทยเรา ก็มีคล้ายๆอยู่บ้างที่วัดเจดีย์เจ็ดยอดที่เมืองเชียงใหม่ ที่สร้างเพื่อเฉลิมฉลองพระพุทธศาสนาครบ 2,000 ปี ในสมัยพระเจ้าติโลกราช) และศิลปะแบบทรง “เนวาลี” ซึ่งเป็นทรงหลังคาชั้นซ้อน เช่นที่ Nyatapola Temple ท่านจะเห็นวิหารหลังคา 5 ชั้นซ้อนเลยทีเดียว และตามบันไดทางขึ้นทั้งสองข้างจะมีประติมากรรมสัตว์ มนุษย์ เทวดา เป็นต้นไล่ระดับความสูงกันไป 
      นอกจากนี้ที่บักตาปูร์ ยังคงเป็นเมืองที่เด่นในด้านการปั้นหม้อดังที่ปรากฏแถบย่าน Potters Square  และด้านการแกะสลักงานเครื่องไม้ ด้วยเหตุนี้ท่านจะได้ยลหน้าต่างนกยูงสลักไม้ที่ยังคงเหลืออยู่ให้เราได้ชื่นชม ความละเอียดในการแกะสลักผลงานชิ้นนี้ได้ถูกนำไปทำเป็นสินค้าจำลองเพื่อขายให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ท่านจะได้แปลกใจกับหน้ากากคนไม่ธรรมดาประดิษฐานอยู่บนอาคารแห่งนี้ เหมือนกับว่ามีคนกำลังมองพวกเราลงมาอยู่ตลอดเวลา (ลองถามไกด์ดูว่าหน้ากากนั้นเป็นใคร) และตามวิหารต่างๆ ท่านจะเห็นภาพอิโรติก แต่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแปลก เพราะนั่นคือการให้การศึกษากับผู้ที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ ในสมัยก่อน โดยคู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันจะพากันมาศึกษาตามวัดวิหารต่างๆ เหล่านี้ 
      บ่ายแก่ๆ นำท่านเข้าเช็คอิน ณ โรงแรมเก่าแก่มีชื่อเสียง ระดับสุดหรู DWARIKA  HOTEL 5* ครั้งหนึ่งเจ้าฟ้าชายชาร์ลแห่งเวลล์ เคยมาประทับ ณ โรงแรมแห่งนี้ เป็นโรงแรมเก่าแก่และขึ้นชื่อที่สุดในเนปาล ได้รับการตกแต่งโดยได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่นี่โดดเด่นอลังการด้านการตกแต่งที่เป็นอัตลักษณ์ ด้วยแรงบันดาลใจที่จะรักษาสถานที่นี้ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของโลก โดยการก่อสร้างและการออกแบบตกแต่งอาคารทั้งหมดเป็นในรูปแบบของศิลปะการใช้ชิ้นงานไม้แกะสลักที่มีอายุเก่าแก่ แต่มีความสวยงาม มีรายละเอียดที่ปราณีตวิจิตรบรรจง
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก DWARIKA  HOTEL 5*, KATHMANDU หรือเทียบเท่า

  • Day 6
    กาฐมัณฑุ - กรุงเทพฯ
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
      อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
      10.30 น. เดินทางไปยังสนามบินนานาชาติตรีภูวัน กาฐมัณฑุ  
      11.15 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติตรีภูวัน เพื่อเตรียมตัวเช็คอินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศกลับสู่ประเทศไทย 
      13.55 น. เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบิน TG320 (13.55-18.30) (อาหารกลางวันบนเครื่องบิน)
      (ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมง 20 นาที)
      18.30 น.    ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
Top